วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี...พบเจอบ่อยมากในปัจจุบัน

          หากเราดูแลตับแล้วไม่ดูแลถุงน้ำดี ก็ถือว่ายังไม่สมบูรณ์ เพราะตับกับถุงน้ำดีอยู่ในระบบเดียวกัน อยู่ใกล้เคียงกัน ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกัน
          หากการทำงานเกิดความขัดข้องหรืออวัยวะใหเกิดโรคจะส่งผลกระทบต่อกันไม่เร็วก็ช้า
          โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดีพบเจอบ่อยมากในปัจจุบัน เป็นโรคที่คุกคามสุขภาพและชีวิตของผู้คนในวงกว้างไม่แพ้โรคตับหรือโรคอื่นๆ
         ถุงน้ำดี..มีหน้าที่  
  • กักเก็บน้ำดีโดยปรกติ จุน้ำดีได้ประมาณ 40-60 ซีซี เทื่อตับผลิตน้ำดีออกมาแล้ว จะไปเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี เวลากินอาหารน้ำดีจะเข้าร่วมในการย่อยอาหารได้ทันเวลา
  • ช่วยหลอมน้ำดีให้ข้นขึ้น เพื่อกักเก็บปรมาณให้ได้มากขึ้น จนสามารถจุได้ประมาณ 300-500 ซีซี มักสะสมในตอนกลางคืน
  • ในช่วงเวลา 8.00-16.00 น. น้ำดีจะถูกขับออกมาเพื่อร่วมกับน้ำย่อยอื่น ช่วยย่อยอาหาร        จากเวลา 17.00-07.00 น.เป็นช่วงที่กักเก็บน้ำดี
  • เยื่อบุถุงน้ำดีช่วยขับเมือกที่เป็นโปรตีน เพื่อปกป้องหนังถุงน้ำดีไม่ให้น้ำดีกัดเซาะ ช่วยให้น้ำดีไหลลื่นเข้าสู่ลำใส้เล็ก
  • ช่วยขับสารที่มีแคลเซี่ยมมก หากถุงน้ำดีอักเสบ ท่อน้ำดีตัน น้ำดีไหลเวียนไม่สะดวก จะทำให้   แคลเซี่ยมตกตะกอน กลายเป็น นิ่ว 
        เมื่อถุงน้ำดีอ่อนแอ ในแพทย์แผนจีน ถุงน้ำดีและตับเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกันอย่างแยกแยะไม่ออก จึงเรียกว่าเป็นนอก ในกัน กล่าวคือ ตับเป็นหยิน ถงน้ำดีเป็นหยาง การทำงานที่กักเก็บและการขับระบาบน้ำดีของถุงน้ำดีจึงเกี่ยวข้องกับความคล่องระบายของตับโดยตรง
        หากตับขับระบายไม่ดี ติดขัด จะส่งผลให้การกักเก็บและการขับระบายน้ำดีของถุงน้ำดีผิดปรกติตามไปด้วย เช่น  เมื่อชี่ถุงน้ำดีติดขัด น้ำดีไหลไม่คล่องเกิดการคั่ง นานๆเข้าเกิดความเหนียวข้นกลายเป็น นิ่ว หรือเอ่อนองไหลย้อยกลับไปที่ตับ เกิดอาการ ปากขม ตัวเหลือง ทั้งยังช่วยอาหารไม่ได้ เกิดอาการคลื่นใส อาเจียน กรดไหลย้อน เป็นต้น
        ฉะนั้นตะกรันในถุงน้ำดีและตะกรันที่เกาะตามท่อน้ำดีในตับ เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงที่คอยกั้นขวางการไหลเวียนของน้ำดี
        การล้างพิษตับ จะช่วยล้างตะกรันเหล่านั้นให้หลุดออกจากผนังของถุงน้ำดีและท่อน้ำดีในตับจนสะอาด ส่งผลให้น้ำดีไหลเวียนคล่อง สะดวก ทำให้ระบบย่อยไขมันในร่างกายดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น