วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ยา กับคนไทย ทำไมมัน เยอะ อย่างนี้

" เช้านี้ดูรายการช่วยคิดช่วยทำ เขาพูดเรื่องคนไทยใช้ยากันเยอะมาก ตอนปี 2530 ไทยใช้ยา 7,000 ล้านบาทต่อปี แต่ปี 2554 ไทยใช้จ่ายค่ายา 100,000 ล้านบาทต่อปี และ 70% เป็นยานำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้เสียงบประมาณมากมาย เขาพูดในเรื่องทำอย่างไรให้คนไทยได้ใช้ยาผลิตในประเทศ และ/หรือลดการใช้ยาน้อยลง เพราะปัจจุบันคนไทยกินยาเป็นกำๆ อวัยวะภายใน ตับไตไส้พุงพังมากมาย แต่คนหันมาทำอาหารเสริมแทน เพราะขบวนการผลิตและการขออนุญาตไม่ยุ่งยากเหมือนการผลิตยา ราคาขายก็สูงกว่า แต่ทั้งหมดที่กล่าวมายังต้องพึ่งพาสิ่งภายนอก และมีผลต่อตับไตกระเพาะอาหารลำไส้ อีกอย่างที่ต้องยอมรับว่าเป็นหนทางธุรกิจ"
อ่านโพสต์นี้จาก Facebook ของหมอนาย Nareelak Pitakdamrongwong 
ซึ่งท่านฝึกทฏษีโพเททัส ซึ่งเป็นการพึ่งพาตัวเองอย่างเข้มแข็งที่สุด จึงอยากเขียนเกี่ยวกับ ยา ที่คนไทยใช้กันดาดดื่นมาก ส่วนใหญ่มากเกินจำเป็นทั้งนั้น เราไม่มีเวลาพอที่จะทำตามสัญญานที่ร่างกายส่งมาเตือนเลย ว่าปวดหัวเพื่ออยากพักสักครู่ แต่เราก็จะใช้ยากดอาการนั้นซะ มีไข้เพราะติดเชื้อและกำลังจัดการกับเชื้อนั้นอยู่ เราก็ไปหาหมอกินยาเพื่อกดอาการต่อสู้นั้นอีก ฯลฯ หลายต่อหลายครั้งการกินยากลับทำให้อาการอื่นเพิ่มมากขึ้นอีก ก็ยิ่งต้องหายามาจัดการต่อไปอีก สุดท้ายสิ่งที่ต้องรับภาระหนักที่สุดก็คือ ตับ และเมื่อมัน เยอะ จนไม่รู้จะยังไงแล้ว ตับก็รวนขึ้นมาบ้าง ที่นี้ละโรคที่ไม่ใช่เกิดจากเชื้อโรคก็จะตามมา เหมือนอย่างที่บางคนกล่าวไว้ว่า เมื่ออายุเข้าเลข 40 เบาหวานและคณะก็จะตามมา และเจ้าโรคจากความเสื่อมนี้เองกลับเป็นปัญหาหนักยิ่งกว่า แล้วอย่างนี้เราจะหาทางออกอย่างไรให้กับร่างกายดีล่ะ ก็คงต้องพึ่งตัวเอง เสาะหาทางเลือกอื่นที่พอจะบรรเทาให้กับร่างกายได้ แต่จะบอกไม่ได้ว่าต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ ทุกท่านต้องเป็นหมอให้กับตัวเอง หาสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง จึงจะเป็นทางออกที่ดี
ขอบคุณภาพจาก เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้
 

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ของขวัญจากอาหารปิ้งย่างและทอด


อันตรายจากอาหารปิ้งย่างและทอด
ชฎาพร นุชจังหรีด
ภาค วิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์

      เข้าไปอ่านบทความนี้แล้ว คิดว่าหลายท่านเคยได้อ่านและเคยได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายจากการกินอาหารประเภทนี้แล้วมาพอสมควร แต่เราๆท่านๆก็ยังไม่เคยเห็นว่ามันจะเกิดอะไรทันีทันใด กว่าจะรู้ ผล ของมันก็ใชเวลานานนนนนมาก จนไม่อาจฟันธงได้ว่าอาการป่วยเหล่านั้นมันมาจากสาเหตุใดกันแน่ 
     ตัวอย่างผู้มาเข้าคอร์สสุขภาพล้างพิษตับบ้านก๋ำปอ เมื่อวันที่ 26 -28 ก.ค.ที่ผ่านมา อาจจะเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนที่สามารถบอกท่านได้ว่า สิ่งที่ท่านๆเราๆด้นเดาว่ามันจะเป็นอย่างไรเมื่อกินเข้าไป 
      น้ำมันที่เกิดจากการปิ้ง ย่างนั้นไม่ได้หายไปไหน ไม่ถ่ายออกมาเพราะร่างกายขับออกไม่ได้ มันเกาะติดอยู่ตามส่วนต่างๆในร่างกายของเรานี่แหละ รอเวลาและจำนวนมากพอที่จะแผลงฤทธิ์ออกมาเป็นอาการป่วยอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งเราคาดเดาไม่ได้ แต่ที่แน่ๆสิ่งเหล่านี้อาศัยอยู่ในร่างกายของท่าน แค่เห็น ท่านก็ลองจินตนาการดูแล้วกันว่า ไม่ป่วยจะเป็นไปได้หรือ 
      เมื่อเห็นแล้ว ถ้ายังไม่คิดจะเอาออก ก็หวังว่าท่านๆทั้งหายจะเพลาๆหรือหยุดกินบ้างเพื่อจะได้ไม่ซ้ำเติม ให้มันมีมากขึ้นๆ จนถึงกับป่วย





วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

รายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมของ คอร์สสุขภาพล้างพิษตับบ้านก๋ำปอ ที่ท่านจะได้รับในการมาอยู่ด้วยกัน 2 คืน 3 วันนี้นะคะ


คอร์สล้างพิษตับ และลำใส้
คอร์สสุขภาพ บ้านก๋ำปอ
คืนความสุข สดชื่น แจ่มใสให้ตัวเอง
โดยการช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย
เพื่อให้อวัยวะต่างๆสามารถทำงานได้เป็นปกติ
เหมือนได้กลับมาเป็นหนุ่ม-สาว อีกครั้ง
ความมหัศจรรย์ที่ท่านเท่านั้น
จะมีโอกาสได้เป็นผู้สัมผัสด้วยตัวท่านเอง 
สนใจ-ติดต่อ มน ใจปณม ไข่คำ
09-1415-9614  
ออย ใจใฝ่บุญ เจริญทรัพย์ 08-612-1870


ตารางเวลาระหว่างการเข้าคอร์ส                 2
วันที่ 1. 8.00 น. ให้มาถึงที่บ้านก๋ำปอ เช็คความเป็นกรด – ด่าง                       
                 ของร่างกาย โดยที่ก่อนมาห้ามบ้วนปาก  แปรงฟัน  
                 หรือดื่มน้ำ เพราะจะไม่สามารถเช็คค่าได้
       08.15 น. ทำออยล์พูลลิ่ง วัดความดัน และการเต้นของหัวใจ
       08.35 น. ดื่มชาเพื่อสุขภาพ เพื่อปรับสภาพร่างกายให้อุ่นพอประมาณ
                 ก่อนที่จะดื่มน้ำที่มีฤทธิ์เย็นต่อจากนี้
                 ระหว่างนี้จะมีผู้ดูแลมาแนะนำการปฏิบัติตัวในระหว่าง
                 ทำคอร์ส เพื่อให้การล้างพิษได้ผลสมบูรณ์ที่สุด
       09.00 น. ดื่มเครื่องดื่มริดท๊อกซ์ ผสมน้ำมะขาม หลังจากนั้น
                  ให้ดื่มน้ำตามทันที 1 แก้ว
       09.15 น. ดื่มน้ำคลอโรฟิล น้ำผลไม้รวม น้ำมะขามผสมน้ำผึ้งและ
                 น้ำด่าง สลับกันทั้งหมดปริมาณ 5-6 ลิตร ตลอดทั้งวัน
       10.30 น. ชมวีดีทัศน์องค์ความรู้เกี่ยวกับการล้างพิษตับ ฯลฯ
       12.00 น. ดื่มเครื่องดื่มริดท๊อกซ์ ผสมน้ำมะขาม หลังจากนั้น
                  ให้ดื่มน้ำตามทันที 1 แก้ว
       12.15 น.  แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสนทนากับแพทย์แผน
                 โบราณ นวดแผนไทย ตอกเส้น จัดกระดูก
       15.00 น. ดื่มเครื่องดื่มริดท๊อกซ์ ผสมน้ำมะขาม หลังจากนั้น
                  ให้ดื่มน้ำตามทันที 1 แก้ว
       17.00 น. แช่เท้าด้วยสมุนไพร ขัดผิวเพื่อช่วยระบายพิษทางผิวหนัง
       17.30 น. อาบน้ำ ดื่มชา สวดมนต์ นั่งสมาธิก่อนนอน 15 นาที
       21.00 น. นอนหลับพักผ่อนให้ร่างกายได้พักอย่างน้อย 9 ชม.


วันที่ 2                                3
 07.00-07.30 น. ตื่นนอน ทำออยล์พูลลิ่ง ออกกำลังกายเบาๆ พร้อมทั้ง
          นวดกดจุดให้ตัวเอง เพื่อช่วยขับพิษ และทำให้เลือดลมไหลเวียนดี
 08.30 น. ดื่มชาเพื่อสุขภาพ ระหว่างนี้จะมีการพูดคุย และแนะนำการ
            ปฏิบัติตัวในวันที่ 2 เพื่อเตรียมตัวดื่มน้ำมันมะกอกในคืนนี้
 09.00 น. ดื่มเครื่องดื่มริดท๊อกซ์ ผสมน้ำมะขามและดื่มน้ำตามทันที 1 แก้ว
  09.15 น. ดื่มน้ำคลอโรฟิล น้ำผลไม้รวม น้ำมะขามผสมน้ำผึ้งและน้ำด่าง
            สลับกันทั้งหมดปริมาณ 5-6 ลิตร จนถึง 3 โมงเย็น
  10.30 น. ชมวีดีทัศน์องค์ความรู้เกี่ยวกับการล้างพิษตับ ฯลฯ
  12.00 น. ดื่มเครื่องดื่มริดท๊อกซ์ ผสมน้ำมะขามและดื่มน้ำตามทันที 1 แก้ว
  12.15 น. สนทนากับผู้ดูแล นวดแผนไทย ตอกเส้น จัดกระดูก เพื่อช่วยให้
            ร่างกายผ่อนคลาย และมีความพร้อมในการขับของเสีย คืนนี้
  15.00 น. ดื่มเครื่องดื่มริดท๊อกซ์ ผสมน้ำมะขามและดื่มน้ำตามทันที 1 แก้ว
  16.00 น. เดินออกกำลังกาย เพื่อช่วยให้ลำใส้มีการเคลื่อนไหว
  17.00 น. แช่เท้าด้วยสมุนไพร ขัดผิวเพื่อช่วยระบายพิษทางผิวหนัง
  17.30 น. อาบน้ำ ดื่มชา
  18.00 น. ดื่มดีเกลือ ครั้งที่ 1        20.00 น. ดื่มดีเกลือ ครั้งที่ 2
  20.30 น. สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม พักผ่อนตามอัธยาศัย
  21.45 น. ดื่มน้ำมันมะกอกผสมน้ำมะนาว แล้วเข้านอนทันที โดยมีถุง       
           น้ำร้อนประคบที่ชายโครงด้านขวาตลอดทั้งคืน เพื่อช่วยให้ร่างกาย
           ขับของเสียได้ดีขึ้น
ตอนกลางคืนถ้ามีการขับถ่ายก่อนเวลาตีสองให้ถ่ายลงชักโครกตามปกติ    จะเริ่มเก็บของเสียหลังเวลาตีสองไปแล้วโดยการถ่ายลงถังส่วนตัวที่เตรียมไว้

วันที่ 3                               4
07.00-07.30 น. ตื่นนอน ทำออยล์พูลลิ่ง ออกกำลังกายเบาๆ พร้อมทั้ง
          นวดกดจุดให้ตัวเอง เพื่อช่วยขับพิษ และทำให้เลือดลมไหลเวียนดี
 08.00 น. กลุ่มหนึ่ง  แช่เท้าด้วยน้ำสมุนไพร  อีกกลุ่มทำดีท๊อกซ์ เพื่อช่วย
            ร่างกายขับของเสียออกมาได้ง่ายยิ่งขึ้น
 09.00 น. รับประทานโจ๊กข้าวกล้องงอก เพื่อให้ร่างกายมีกำลัง
            และไม่มีลมแทรกในลำใส้
 09.00 - 12.00 น. ทำดีท๊อกซือีก 2-3 ครั้ง
  12.15 น. นำของเสียของแต่ละคนมาตรวจเพื่อให้ทราบว่ามีอะไรออกมาบ้าง
            และควรระวังสุขภาพด้านใดบ้าง
  12.30 น. แยกย้ายกลับบ้านด้วยความสุข สดชื่น สุขภาพดี ทุกๆท่าน
การปฏิบัติตัวหลังจากออกจากคร์อสล้างพิษตับ
ถ้าสามารถทำได้......

วิธีการ                              5
·       อดอาหารตั้งแต่เช้าวันที่ 1 จนถึง คืนวันที่ 2 เพื่อให้ร่างกายได้พัก พร้อมทั้งขับกากอาหารเที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกาย ให้ออกมาให้หมด
·    มีเครื่องดื่มริดท๊อกซ์ที่เป็นตัวช่วยดูดซับกาก และสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามผนังลำใส้ แล้วขับถ่ายออกมาในระหว่าง 2 วันนี้
·    ดื่มน้ำมันมะกอกผสมน้ำมะนาว เพื่อช่วยกระตุ้นให้ตับและถุงน้ำดี หลังน้ำดีออกมาขับไขมัน ของเสียที่เกาะตามที่ต่างๆ ออกมา
บ้านสุขภาพก๋ำปอ เตรียมอะไรให้ท่านบ้าง
·       น้ำคลอโรฟิล จากผักพื้นบ้านไร้สารพิษ มีฤทธิ์เย็น ช่วยปรับสมดุลย์ให้ร่างกาย
·       น้ำแอปเปิ้ลผสมแครอท และบีทรูท ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารและที่สำคัญในผลแอปเปิ้ล จะมีสารสำคัญที่ช่วยให้ตะกรันไขมันอ่อนตัว สามารถขับออกได้ง่าย
·       น้ำมะขามผสมน้ำผึ้ง รสชาตอร่อย ช่วยระบาย
·       สำคัญที่สุดคือ ทั้งน้ำคลอโรฟิลและน้ำผลไม้ ปั่นด้วยเครื่องปั่นรอบจัดระดับ 45,000 รอบ(สูตรดร.ทอมอู๋) ที่ช่วยดึงเอ็นไซน์ของผักและผลไม้ออกมาได้ เอ็นไซน์เหล่านี้สามารถดูดซึมลงสู่เซลล์โดยที่ร่างกายไม่ต้องย่อยเอง จึงทำให้ไม่รู้สึกหิว และเป็นเห็นผลดีหลังจากออกคอร์ส เพราะร่างกายจะรู้สึกสดชื่น กระปรี๊กระเปร่า อย่างเห็นได้ชัด
·       กระบวนการล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำสะอาด และแช่ในน้ำโอโซนในน้ำสุดท้าย  ซึ่งทำให้ผักสด สะอาด ปลอดภัย
·       นอกจากนั้น ผลแอปเปิ้ลจะปลอกเอาเปลือกที่เคลือบแว็กซ์ ออกหมด

การเตรียมตัวมาเข้าคอร์ส                        6
·       เห็นความสำคัญและมีความตั้งใจที่จะมาเอาพิษออกจากร่างกาย ด้วยวิธีธรรมชาติ โดยการช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียและสารพิษได้ด้วยตัวเอง โดยให้ความร่วมมือกับผู้ดูแลอย่างเต็มที่
·       ต้องวางความรู้เดิมที่เป็นความรู้กี่ยวกับการรักษาแบบตะวันตก เพราะคอร์สนี้ไม่ใช่การรักษา แต่เป็นคอร์สที่ช่วยให้อวัยวะในร่างกายสามารถกลับมาทำงานได้เป็นปกติเท่านั้น
·       คอร์สนี้ ไม่ให้หยุดยาแผนปัจจุบันที่ท่านต้องทานอยู่เป็นประจำ ไม่มีผลต่อการทานยารักษาโรคใดๆทั้งสิ้น
·       ผู้มาเข้าคอร์สต้องเป็นผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่คอร์สสำหรับผู้ป่วยหนัก
·       เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายที่สุด เป็นผ้าใยธรรมชาติจะยิ่งดี ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น